แจ้งสมาชิก แท็กซี่บริการ ทั้งหลายทราบ กรมขนส่งทางบก เปิดปรับจูนมิเตอร์ค่าแท็กซี่ใหม่ เริ่ม 16 ม.ค.นี้ ถึง28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.00-17.00 น.เน้นย้ำ 4 บริษัทเท่านั้น ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM), บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) นอกเหนือจากนี้ ให้ไปติดต่อบริษัทของตัวเอง หากไปซื้อมิเตอร์ของเขา อาจต้องจ่ายตังค์เอง 3,000 กว่าบาท อย่าลืมถ่ายสำเนาทะเบียนรถ และสำเนาทะเบียนรถหน้า 18 ที่มีรายละเอียดของมิเตอร์ด้วย
เริ่ม 16 ม.ค.นี้ “กรมขนส่งทางบก” เปิดพื้นที่ปรับจูนมิเตอร์ค่าโดยสารใหม่ เริ่มต้น 40 บาท รองรับผู้ขับรถแท็กซี่ 4,000 คันต่อวัน พร้อมตรวจสอบความถูกต้องก่อนให้บริการประชาชน คาดดำเนินการเสร็จ 1-2 เดือน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้เตรียมพื้นที่รองรับผู้ขับรถแท็กซี่ต้องนำมิเตอร์ไปปรับจูนมาตรค่าโดยสารที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์ให้ถูกต้อง หลังกระทรวงคมนาคมได้มีประกาศปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร และได้ลงประกาศราชกิจจานุเบกษาฯ แล้ว โดยร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM), บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) นำเจ้าหน้าที่ของทั้ง 4 บริษัทมาให้บริการปรับจูนมิเตอร์ บริเวณสถานีกลางบางซื่อ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.00-17.00 น.
ทั้งนี้มิเตอร์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ชำรุด บกพร่อง และหลังการปรับจูนกรมการขนส่งทางบกได้จัดเจ้าหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองความถูกต้องของมิเตอร์ตามที่กฎหมายกำหนด ณ สถานีกลางบางซื่อ สำหรับมิเตอร์นอกจาก 4 ยี่ห้อดังกล่าว หลังจากนำมิเตอร์ปรับจูนที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์แล้ว สามารถนำมิเตอร์มารับรองความถูกต้อง ณ สถานีกลางบางซื่อ ได้เช่นกัน หลังจากนั้นหากมีการปรับจูนมิเตอร์แล้วให้นำมิเตอร์มาที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ส่วนตรวจสภาพรถ งานตรวจสภาพรถรับจ้างและรถอื่น อาคาร 4 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจรับรองความถูกต้องและทำการซีลตะกั่วที่มิเตอร์ก่อนออกให้บริการประชาชน โดยเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
“กรมฯได้เน้นย้ำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด”
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า หลังจากประกาศลงราชกิจกิจจาให้ผลบังคับใช้แล้ว ปัจจุบันมีบริษัทที่จะดำเนินการปรับจูนมิเตอร์แล้ว 20 บริษัทฯ ซึ่งเป็นแท็กซี่ประเภทรถขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซีขึ้นไป และ รถขนาดเล็ก เครื่องยนต์ขนาด 1,600-1,800 ซีซี ที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 70,000 คัน จากที่มีในระบบประมาณ 80,000 คัน ต้องนำรถมาปรับจูนค่าโดยสารใหม่ด้วย
นอกจากนี้กรมฯ จะทำการรับรองการปรับจูนค่าโดยสารใหม่ให้สมบูรณ์ตามขั้นตอน ก่อนจะนำรถแท็กซี่ไปให้บริการผู้โดยสารด้วยการใช้ค่าโดยสารใหม่ต่อไป เบื้องต้นสถานีกลางบางซื่อสามารถรองรับจำนวนแท็กซี่ที่จะมาปรับจูนค่าโดยสารใหม่ได้ประมาณ 4,000 คันต่อวัน คาดว่าดำเนินการให้แล้วเสร็จประมาณ 1-2 เดือน
สำหรับการปรับอัตราค่าโดยสารในราคาที่เหมาะสมจามประกาศราชกิจจาฯ ดังนี้ ระยะทาง 1 กม.แรก 40 บาท, ระยะทาง 1-10 กม. รถเล็ก กม.ละ 6.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 6.5 บาท, ระยะทาง 10-20 รถเล็ก กม.ละ 7 บาท รถใหญ่ กม.ละ 7 บาท, ระยะทาง 20-40 กม. รถเล็ก กม.ละ 8 บาท รถใหญ่ กม.ละ 8 บาท, ระยะทางเกินกว่า 40-60 กม. รถเล็ก กม.ละ 8.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 8.5 บาท, ระยะทาง 60-80 กม. รถเล็ก กม.ละ 9 บาท รถใหญ่ กม.ละ 9 บาท, ระยะทาง 80กม. ขึ้นไป รถใหญ่ กม.ละ 10.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ 10.5 บาท ค่ารถติดในกรณีรถเคลื่อนที่ได้ช้ากว่า 6 กม./ชม. รถเล็ก 3 บาทต่อนาที รถใหญ่ 3 บาทต่อนาที
อย่างไรก็ตามการปรับอัตราค่าโดยสารตามประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้ปรับอัตราค่าโดยสารมาแล้วกว่า 8 ปี โดยกรมการขนส่งทางบกจะนำระบบตัดแต้มรถโดยสารสาธารณะมาใช้ควบคุมและกำกับคุณภาพการให้บริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการของรถแท็กซี่และดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุด ซึ่งมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้
ขอขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล
